ในวันที่ 10 ธันวาคม 2562 สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย (ThaiBIO) จัดกิจกรรมพาสมาชิกเยี่ยมชม บริษัท ซูกาเวีย จำกัด และ Sugavia Healthy Land แดนปลอดสารพิษ ในกิจกรรม ThaiBIO Be Your Guest และ ThaiBIO Knowledge Sharing 4/2562
คณะเยี่ยมชมเดินทางถึงบริษัท ซูกาเวีย จำกัด ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ณ ที่นั้น ดร.เครือวัลย์ สมณะ (ผู้ก่อตั้ง และ ประธานกรรมการ บริษัท เบคไทยกรุงเทพอุปกรณ์เคมีภัณฑ์ จำกัด 1 ใน 7 บริษัท สมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมฯ และ มี ดร.ขวัญชนิตร ตันตเวชกุล สะใภ้ใหญ่เป็นผู้แทนบริษัทเบคไทยฯ ร่วมเป็นกรรมการบริหารสมาคมฯ ในชุดปัจจุบัน) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ซูกาเวียให้การต้อนรับคณะผู้เยี่ยมชมซึ่งประกอบด้วย ดร.วสันต์ อริยพุทธรัตน์ นายกสมาคมฯ, ดร.พิมพ์นภา ณีศะนันท์ ผู้จัดการสมาคมฯ, ผู้บริหาร และพนักงานจากบริษัทสมาชิกในสมาคมฯ รวมถึงแขกของสมาคมฯ ที่มีความสนใจในธุรกิจ และเทคโนโลยีด้านการปลูกและสกัดสารหวาน (Stevioside) จากหญ้าหวานที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม
ดร.เครือวัลย์ ได้กรุณาแนะนำ พล.ต.ดร.ชัยณรงค์ เชิดชู กัลญาณมิตร ผู้ช่วยในธุรกิจให้คณะเยี่ยมชมรู้จัก และร่วมเล่าความเป็นมาในการก่อตั้งธุรกิจที่มีอายุใกล้ๆ 50 ปี ของบริษัท เบคไทยกรุงเทพอุปกรณ์เคมีภัณฑ์ จำกัด ว่า บริษัทเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 จากวิสัยทัศน์ของท่านที่เล็งเห็นว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านการศีกษาและอุตสาหกรรมซึ่งจะส่งผลถึงเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ จึงมีอุดมการณ์ว่าบริษัทของท่านจะเป็นผู้นำในการบริการอุปกรณ์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเคมีภัณฑ์ที่ทันสมัย มีคุณภาพและมาตรฐานสูงแบบครบวงจร (One stop service) ในราคาที่เหมาะสมให้กับลูกค้าทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย ส่วนราชการ และบริษัทเอกชนทุกระดับให้เข้าถึงได้ นอกจากนี้เสียงตอบรับจากลูกค้าหลายแห่งถึงจุดเด่นของบริการที่ได้คือการบริการด้านข้อมูลเทคนิคของอุปกรณ์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และการสัมมนาวิชาการที่บริษัทจัดให้ความรู้กับลูกค้าอยู่เป็นประจำ ทำให้บริษัทได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างซื่อสัตย์ และเป็นที่น่าเชื่อถือมาตลอด ในปัจจุบันบริษัทมีการขยายกิจการเพื่อรองรับลูกค้าโดยมีการเพิ่มสาขาที่ เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ทางเบคไทยยังมีบริษัทในเครือต่างๆ มากมายรวมถึงบริษัท ซูกาเวีย จำกัด และ Sugavia Healthy Land ด้วย
เมื่อกล่าวถึงการตั้งบริษัท ซูกาเวีย ดร.เครือวัลย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ท่านได้รับโจทย์มาจากรัฐบาลถึงปัญหาหญ้าหวานที่มีการส่งเสริมให้เกษตรกรทางภาคเหนือเพาะปลูก แต่ไม่มีการเก็บรักษาผลผลิต หรือ การแปรรูปเพื่อยืดเวลาเก็บไว้ได้นานๆ ก่อนการขายทำให้ผลผลิตเน่าเสีย เป็นปัญหาให้กับเกษตรกรซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว จึงได้รับเอาปัญหากลับมาขบคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืน และให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ต่อไปได้ และถือเป็นโชคดีที่ตอนนั้น ดร.จามร สมณะ ลูกชายคนเล็กของท่านจบ Ph.D. ในสาขา Molecular Biology มีความสนใจและเชี่ยวชาญด้าน Plant biochemistry และ Crop Plant Biodiversity มาจาก มหาวิทยาลัย Cambridge จึงเข้ามาช่วยงานท่านได้พอดี ดร.จามร ต้องใช้เวลาถึง 6 ปี จึงจะได้ต้นพันธุ์ที่แข็งแรง ปลูกง่าย โตเร็ว เนื่องจากโจทย์ที่ได้รับจากคุณแม่คือให้ใช้การผสมและคัดพันธ์โดยวิธีธรรมชาติ ห้ามใช้วิธี Genetic engineering และที่สำคัญคือให้สารหวานที่มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลที่ผลิตจากอ้อยได้ในปริมาณสูง หอมและไม่มีรสเฝื่อนหรือขมติดลิ้นเหมือนน้ำตาลเทียมตัวอื่น ทำให้ใบหญ้าหวานอบแห้งสายพันธ์ที่คัดได้นี้สามารถนำมาชงเป็นชาเขียวที่หอมหวานได้แบบ No calorie สำหรับคนสูงวัย ผู้ป่วยเบาหวานหรือคนรักสุขภาพได้ นอกจากการคัดสายพันธุ์แล้ว ดร.จามร ยังได้โจทย์อีก 2 ประการ 1.พัฒนาวิธีการสกัดสารสำคัญ (Functional ingredient) จากต้นหญ้าหวานและเก็บสารสกัดจากหญ้าหวานในรูปผง ซึ่งจะมีอายุการเก็บรักษาได้นานช่วยแก้ไขปัญหาผลผลิตเน่าเสียและเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตอีกด้วย ด้วยวิธีการสกัดใหม่นี้เองสามารถสกัดสารสำคัญได้ถึง 5 ชนิด วิธีการสกัดนี้ได้รับอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2.พัฒนาวิธีการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานที่มีความหวานอยู่ในระดับเหมาะสม ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สะดวกกับ life style ของผู้บริโภค เนื่องจากสารสกัดจากหญ้าหวานในปริมาณ (น้ำหนักผง) ที่เท่ากันจะให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลจากอ้อยถึง 300 เท่า และมีจุดหลอมเหลวสูงถึง 220 องศาเซนเซียส สารสกัดจากหญ้าหวานจึงเหมาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่ประกอบโดยการใช้ความร้อนสูงด้วย สารสกัดจากหญ้าหวานของซูกาเวียได้รับมาตรฐานการผลิตทั้งในไทยและต่างประเทศ เรียบร้อยแล้วเช่นกันโดย บริษัท ซูกาเวีย มีพื้นที่ ร่วม 400 ไร่ ปัจุบันยกแปลงเพาะปลูกไว้ 200 ไร่
หลังจากจบการบรรยาย ดร.วสันต์ อริยพุทธรัตน์ นายกสมาคมฯ เป็นคัวแทนสมาคมฯ มอบแท่นพระรูปในหลวง ร.9 ผู้ทรงมีมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนทรงเป็นต้นแบบของนักพัฒนาและให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการขอบคุณ ดร.เครือวัลย์ พร้อมทั้งกล่าวว่าการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ความรู้และประโยชน์มากมายและขอสรุปไว้ 3 ข้อ คือ 1 ท่านได้สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย จากวิสัยทัศน์บริษัทเบคไทยที่ให้บริการเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีความทันสมัย มีธรรมาภิบาล ไม่สนับสนุนการคอร์รัปชั่น ต่อสู้ในธุรกิจและสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงมาจนถึงปัจจุบันเกือบ 50 ปี แล้ว 2. ความมีจิตอาสา หรือจิตสาธารณะ คิดที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่นจึงเกิดเป็นธุรกิจซูกาเวียที่ได้รับความสำเร็จได้ ก็เพราะความเป็นตัวของท่าน ศักยภาพที่มีความพร้อมและเครือข่ายในระดับหนึ่งที่หลายคนไม่มีและคนที่มีบางคนก็ไม่ได้มีจิตอาสา 3. โอกาสในการต่อยอดธุรกิจโดยนำผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวานซูกาเวียไปใช้ในอุตสาหกรรมของตน
หลังจากนั้นคุณเครือวัลย์ พาคณะเยี่ยมชมบริเวณรอบโรงงาน ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง ตัวสำนักงานมีห้องแลปเล็กๆ แต่พร้อมด้วยเครื่องมือสำหรับตรวจ lab QC พร้อมติดตั้งระบบ lab safety ตามมาตรฐานสากล สมป็นบริษัทในเครือเบคไทยที่ให้บริการเครื่องมือวิทยาศาสตร์และเคมีภัณฑ์เป็นที่น่าเชื่อถือมายาวนาน สำหรับโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ อาคารโรงงาน เข้าชมรอบอาคารและรับชมวิดิทัศน์ จากเหตุผลทางการรักษามาตรฐานรวมถึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีการผลิต จากนั้นเจ้าบ้านกรุณาเลี้ยงอาหารกลางวันกับสมาชิกฯ ก่อนเข้าชม Sugavia Healthy Land